เพศหญิงภาษากรีกและก็โรมันใช้กิ๊ฟผมลักษณะราวกับเข็มด้ามตรงยาวเป็นเครื่องเพชรพลอย รูปร่างของปิ่นประดับผมนี้เลียนแบบมาจากกระดูกสันหลังของสัตว์แล้วก็ไม้มีหนาม
ซึ่งคนสมัยเริ่มแรกใช้เหน็บผม พวกชนเผ่าต่างๆในปัจจุบันก็ยังคงใช้อยู่ จากป่าช้าโบราณในทวีปเอเชีย นักโบราณคดีขุดคุ้ยเจอปิ่นตกแต่งผมจำนวนหลายชิ้น มีทั้งๆที่สร้างขึ้นจากกระดูก เหล็ก สำริด เงิน แล้วก็ทองคำ บางอันเรียบ บางอันสลักลวดลาย แต่ว่าไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ปิ่นประดับผมพวกนี้ทำให้เห็นว่า ทรงของปิ่นไม่เปลี่ยนแปลงเลยในระยะเวลานับหมื่นปี
พระนางคลีโอพัตรา (ปี ๖๙ ถึง ๓o ก่อนคริสตกาล) โปรดปิ่นสำหรับปักผมงาฝังเพชร กิ๊ฟ ยาวราว ๗-๘ นิ้ว ชาวโรมันคิดทำปิ่นสำหรับประดับผมที่เป็นโพรงกลวงเพื่อชุกแอบซ่อนยาพิษ ชนิดเดียวกันกับปิ่นสำหรับปักผมที่ร่ำลือกันว่าพระนางคลีโอพัตราใช้เพื่อปลิดพระชนม์ชีพ
ปิ่นตกแต่งผมตรงยาวพัฒนาการมาเป็นกิ๊บติดผมรูปตัวยูในขณะสองศตวรรษ แฟชั่นสวมวิกในศาลประเทศฝรั่งเศสยุคศตวรรษที่ ๑๗ ทำให้คนควรต้องตัดผมสั้นหรือไม่ก็เก็บผมให้ชิดกับหัวเยอะที่สุด ด้วยเหตุผลดังกล่าวกิ๊ฟติดผมก็เลยเกิดขึ้นเพื่อปฏิบัติหน้าที่สองประการเป็นหนึ่ง-ตรึงวิกไม่ให้หลุดจากหัว รวมทั้ง สอง-เก็บผมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยดูดีเมื่อถอดวิกออก
เมื่อกิ๊ฟตัวเล็กสองขาทำมาจากลวดเหล็กชุบสีดำ ถูกสร้างขึ้นมาอย่างจริงจังในศตวรรษที่ ๑๙ กิ๊บดำนี้ก็ทำให้ปิ่นสำหรับประดับผมเปลี่ยนเป็นของโบราณไปเลยนับจากนั้นมา
สมัยนี้คนก็ยังชอบใช้กิ๊ฟติดผมกันอยู่ เนื่องจากไว้ติดเป็นแฟชั่น หรือ ติดไว้เพื่อเก็บผมไม่ให้เกะกะ ยังคงเป็นที่นิยมกันถึงยุคสมัยนี้ก็นเลยทีเดียว